ตลาดหุ้นผันผวน อารมณ์นักลงทุนมีชัยไปแล้ว? เจาะลึก Fear & Greed Index ดัชนีวัดความกลัว-ความโลภ ที่ส่งผลต่อการลงทุน

ตลาดยังคงผันผวน ความไม่แน่นอนยังคงเป็นเงาตามตัว นักลงทุนหลายคนอาจรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจว่าจะตัดสินใจลงทุนอย่างไรดี?
ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทอาจดูดี แต่ราคาหุ้นกลับไม่เป็นไปตามนั้น หรือในทางกลับกัน แม้ปัจจัยพื้นฐานจะไม่โดดเด่น แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ สาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้คือ อารมณ์ของนักลงทุน!
Fear & Greed Index (ดัชนีความกลัวและความโลภ) คือเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจและติดตามอารมณ์ที่กำลังครอบงำตลาดได้ ดัชนีนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย CNN Business และมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก รวมถึงในตลาดหุ้นไทยของเราด้วย
Fear & Greed Index คืออะไร?
ดัชนีนี้มีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดย:
- ค่า 0: ความกลัวสูงสุด (Extreme Fear) นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังหวาดกลัวและเทขายหุ้นอย่างรุนแรง
- ค่า 50: กลาง ตลาดอยู่ในภาวะสมดุลระหว่างความกลัวและความโลภ
- ค่า 100: ความโลภสูงสุด (Extreme Greed) นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังตื่นเต้นและแย่งกันซื้อหุ้น
Fear & Greed Index วัดอะไรบ้าง?
ดัชนีนี้ไม่ได้วัดจากเพียงแค่ความรู้สึกของนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังพิจารณาจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและการเงินอีกหลายตัว เช่น:
- ตลาดหุ้น: วัดจากความผันผวนของราคาหุ้นและปริมาณการซื้อขาย
- ความนิยมในการค้นหา: วัดจากจำนวนคนที่ค้นหาคำว่า “ตลาดหุ้น” หรือ “ลงทุน” ใน Google
- การสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุน: วัดจากความคิดเห็นของนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางตลาดในอนาคต
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตร: สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดต่ออัตราดอกเบี้ย
- ความผันผวนของวานิลลาออปชัน: วัดความผันผวนของราคาหุ้น
แล้วนักลงทุนควรทำอย่างไรเมื่อรู้ค่า Fear & Greed Index?
การทำความเข้าใจ Fear & Greed Index สามารถช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น:
- เมื่อดัชนีอยู่ในภาวะความกลัวสูงสุด: อาจเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นในราคาที่ถูกลง แต่ควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ
- เมื่อดัชนีอยู่ในภาวะความโลภสูงสุด: ควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการลงทุนที่เกินความจำเป็น
- เมื่อดัชนีอยู่ในภาวะกลาง: เป็นช่วงเวลาที่ตลาดอยู่ในสภาวะสมดุล นักลงทุนสามารถพิจารณาลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีได้
ข้อควรระวัง: Fear & Greed Index เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์ตลาด ไม่ควรนำมาใช้เป็นปัจจัยเดียวในการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท สภาพเศรษฐกิจ และเป้าหมายการลงทุนของตนเอง