รวมพลังหรือสะดุด? ภาพรวมการควบรวมกิจการในธุรกิจการเงินไทยปี 2568 ที่น่าจับตา
วงจรการควบรวมกิจการในภาคการเงินไทยยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง
ภาพรวมการควบรวมกิจการ (Mergers & Acquisitions - M&A) ในธุรกิจการเงินของประเทศไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายและแนวโน้มที่ซบเซาต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2568 ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งปัจจัยภายในประเทศและปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ประกอบการ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการควบรวมกิจการ
- เศรษฐกิจชะลอตัว: ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อและการลงทุนลดลง ทำให้บริษัทต่างๆ ขยายตัวได้ยากขึ้น และลดความสนใจในการควบรวมกิจการเพื่อเพิ่มขนาดหรือขยายตลาด
- ความไม่แน่นอนทางการเมือง: สถานการณ์การเมืองที่ผันผวนและยังไม่แน่นอน ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ รวมถึงการควบรวมกิจการ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายและการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้น
- อัตราดอกเบี้ยสูง: การที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง ทำให้ต้นทุนทางการเงินในการควบรวมกิจการสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อความคุ้มค่าและความน่าสนใจของการลงทุน
- ความท้าทายด้านกฎระเบียบ: กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นในภาคการเงิน รวมถึงข้อกำหนดด้านการกำกับดูแล และการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ ทำให้กระบวนการมีความซับซ้อนและใช้เวลานานขึ้น
- ปัจจัยภายนอก: สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน ความขัดแย้งทางการค้า และความผันผวนของค่าเงิน ทำให้ธุรกิจการเงินไทยได้รับผลกระทบทางอ้อม และส่งผลต่อการตัดสินใจในการควบรวมกิจการ
โอกาสและความท้าทายในอนาคต
แม้ว่าภาพรวมจะยังคงซบเซา แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่การควบรวมกิจการในธุรกิจการเงินไทยจะกลับมาคึกคักขึ้นได้ หากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นเริ่มปรับตัวดีขึ้น เช่น เศรษฐกิจฟื้นตัว การเมืองมีความมั่นคง และอัตราดอกเบี้ยลดลง
นอกจากนี้ เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ก็อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดการควบรวมกิจการระหว่างสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมกับบริษัทเทคโนโลยี เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่สนใจจะควบรวมกิจการจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ เช่น การประเมินมูลค่าที่เหมาะสม การบูรณาการธุรกิจ และการจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
สรุป
การควบรวมกิจการในธุรกิจการเงินไทยยังคงอยู่ในช่วงที่ท้าทาย แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาคึกคักขึ้นได้ในอนาคต ขึ้นอยู่กับการปรับตัวของปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และความสามารถของผู้ประกอบการในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้น
