วิกฤตเศรษฐกิจซ้ำซาก! นักวิชาการเร่งธปท. ลดดอกเบี้ยด่วน หวั่นนโยบายการเงินยิ่งตอกย้ำความทรุด
ท่ามกลางสัญญาณเตือนภัยทางเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักเศรษฐศาสตร์หลายท่านต่างออกมาเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยที่กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว
เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับความเสี่ยง
สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งปัจจัยภายในประเทศที่ยังคงถูกกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และการฟื้นตัวของภาคการส่งออกที่ชะลอตัวลง รวมถึงปัจจัยภายนอกประเทศที่ยังคงมีความผันผวนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการบริโภค
ดร.พิพัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ ได้แสดงความกังวลว่า หากธปท. ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยยิ่งซบเซาลงไปอีก เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจะทำให้ภาคธุรกิจขาดแคลนสภาพคล่อง และส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการจ้างงาน
การลดดอกเบี้ยคือทางออก?
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้หลายด้าน ได้แก่
- ลดภาระต้นทุนทางการเงิน: ช่วยให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคมีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น
- กระตุ้นการลงทุน: สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และส่งเสริมให้มีการลงทุนในโครงการต่างๆ
- เพิ่มกำลังซื้อ: ช่วยให้ผู้บริโภคมีเงินเหลือมากขึ้นสำหรับการใช้จ่าย
- ส่งเสริมการส่งออก: ทำให้สินค้าไทยมีราคาแข่งขันได้มากขึ้นในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็มีความเสี่ยงเช่นกัน หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง การลดดอกเบี้ยอาจส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น ธปท. จึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
ข้อเสนอแนะ
นักเศรษฐศาสตร์หลายท่านเสนอแนะให้ ธปท. พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% - 0.50% โดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวควรมาพร้อมกับการดำเนินนโยบายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การสนับสนุน SMEs และการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน
อนาคตเศรษฐกิจไทยอยู่ในมือใคร?
การตัดสินใจของ ธปท. ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความท้าทาย จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออนาคตเศรษฐกิจไทย ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ ธปท. จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อให้สามารถดำเนินนโยบายการเงินได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้เศรษฐกิจไทยสามารถก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างแข็งแกร่ง
