วิกฤต! โรงพยาบาลรัฐ 326 แห่ง เงินบำรุงติดลบกว่า 8,000 ล้านบาท ไตรมาส 3 ปีงบ 68

สถานการณ์น่าเป็นห่วง! โรงพยาบาลรัฐจำนวน 326 แห่งทั่วประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตทางการเงินอย่างหนักหน่วง โดยมีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 68 พบว่าเงินบำรุงติดลบไปถึง 8,000 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่น่ากังวลและส่งผลกระทบต่อการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน
จากข้อมูลที่เปิดเผยออกมา พบว่าสถานการณ์ดังกล่าวร้ายแรงกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย อาทิ งบประมาณที่ไม่เพียงพอ ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการแพทย์ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของโรงพยาบาล
โรงพยาบาลสีแดง 35 แห่ง
ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ มีโรงพยาบาลจำนวน 35 แห่งที่อยู่ในภาวะวิกฤตทางการเงินระดับ “7 สีแดง” ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการขั้นพื้นฐานได้ โรงพยาบาลเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วนจากภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินและรักษาคุณภาพการให้บริการ
ผลกระทบต่อประชาชน
วิกฤตทางการเงินของโรงพยาบาลรัฐส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนผู้รับบริการ โดยอาจทำให้เกิดการขาดแคลนยา เวชภัณฑ์ และบุคลากรทางการแพทย์ ส่งผลให้การรักษาพยาบาลล่าช้าหรือไม่ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่
แนวทางการแก้ไข
เพื่อแก้ไขวิกฤตนี้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมีมาตรการที่ครอบคลุมและเร่งด่วน ดังนี้:
- เพิ่มงบประมาณ: ภาครัฐควรเพิ่มงบประมาณให้กับโรงพยาบาลรัฐ เพื่อให้เพียงพอต่อการดำเนินงานและให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ
- ปรับปรุงระบบการจัดสรรงบประมาณ: ควรมีการปรับปรุงระบบการจัดสรรงบประมาณให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อให้โรงพยาบาลได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมกับความต้องการ
- เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ: โรงพยาบาลควรบริหารจัดการงบประมาณและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและเพิ่มรายได้
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน: ควรส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนโรงพยาบาลรัฐ เช่น การบริจาค หรือการร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ
อนาคตของการบริการสาธารณสุข
วิกฤตทางการเงินของโรงพยาบาลรัฐเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ในการบริการสาธารณสุขของประเทศ หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของการบริการสาธารณสุข และความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชน